รับแปลงาน เอกสาร ไทย-English ถูกต้อง กระชับ ฉับไว
รับแปลเอกสาร แปลภาษา บทความประกอบเว็บไซต์ โบรชัวร์ แผ่นพับ แปลบทคัดย่อ รับเขียนบทความไทยและอังกฤษ รีไรต์งานภาษาอังกฤษ งานมีคุณภาพ เชื่อถือได้ รวดเร็ว ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ ไม่ใช้โปรแกรมแปลภาษาใดๆ
วันนี้ขอเสนอ การใช้เครื่องหมายในภาษาอังกฤษ COMMAS [ , ]
****************************
นอกจากหลักไวยากรณ์และการเลือกใช้ศัพท์แล้ว การเขียนภาษาอังกฤษที่ดีเราจะต้องใช้เครื่องหมายต่างๆ ได้อย่างถูกต้องด้วย ซึ่งฝรั่งเขาก็มีหลักการใช้กำหนดไว้อยู่แล้ว อย่างการใช้เครื่องหมาย COMMAS [ , ] ที่ไปรวบรวมมาได้นี่ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีมากมายถึง 17 ข้อด้วยกัน
1. คอมม่ามีหน้าที่แบ่งคำ เวลาอ่านภาษาอังกฤษถ้าเจอคอมม่าเราจะหยุดเว้นวรรคหายใจนิดนึงก่อนอ่านคำถัดไป ไม่อ่านติดกัน เช่น Take a break, will you?
2. คอมม่ามีไว้กั้นระหว่าง introductory words หรือ phrases ก่อนจะตามด้วย main clause หรือประโยคหลัก เช่น However, he was… Finally, he was… Yes, he was… หรือ In 1999, he was …
3. คอมม่ายังใช้แยก clauses ในประโยคด้วย เช่น In the beginning, when God created the universe, the earth was formless and desolate.
4. คอมม่าอยู่หน้า direct speech เช่น He asked, “What is going on here?”
5. คอมม่ากับสถานที่และการเขียนที่อยู่ เป็นการให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่ เช่น The White House, 1600 Pennsylvania Ave., Washington, D.C. และ He now lives in Bangkok, Thailand.
6. คอมม่าใช้กั้นหน้าและกั้นหลังประโยคหรือวลีที่เป็นการอธิบายเพิ่มเติม เช่น One day in the near future, if we can believe what scientists tell us, this planet will run out of oxygen.
7. คอมม่าใช้เมื่อระบุรายการที่ประกอบด้วยหลายสิ่ง เช่น They need to buy some milk, freshly baked bread, and oranges at the supermarket.
8. คอมม่าใช้กับตัวเลข เช่น 20,000 baht
9. เพิ่มความระมัดระวังเมื่อใส่คอมม่าใน non-restrictive clause เพราะอาจทำให้ความหมายเปลี่ยนไป เช่น I pulled up all the flowers that looked like weeds. (restrictive) กับ I pulled up all the flowers, which looked like weeds. (non-restrictive) ประโยคแรกยังมีดอกไม้เหลืออยู่บ้างเพราะฉันถอนดอกไม้ที่ดูเหมือนจะเป็นวัชพืชทิ้งทั้งหมด ส่วนประโยคหลังนั้นไม่เหลือดอกไม้เลยสักดอก ฉันถอนทิ้งทั้งหมดเพราะพวกมันดูเหมือนจะเป็นวัชพืช
10. คอมม่าอยู่หน้าและหลัง appositive (คำหรือวลีที่ใช้ขยายคำนามหรือสรรพนามที่อยู่ข้างหน้า) เช่น Susan, one of our neighbors, was accused of not liking cats. แต่ก็ต้องระวังการใช้อีกเช่นกันเพราะอาจกระทบกับความหมายเล็กๆ น้อยๆ เช่น My upstairs neighbor Susan doesn’t like cats. ทำให้เราคิดไปได้ว่านอกจากซูซานแล้วที่ชั้นบนนั้นยังมีเพื่อนบ้านคนอื่นๆ อาศัยอยู่อีกในขณะที่ My upstairs neighbor, Susan, doesn’t like cats. หมายความว่าคนที่อยู่ชั้นบนมีแค่ซูซานคนเดียวและนางไม่ชอบแมว
11. คอมม่านิยมใช้กั้นระหว่าง dependent clause กับ independent clause เมื่อ dependent clause มาก่อน เช่น After lunch, my stomach was upset. เพื่อแสดงการหยุดเว้นวรรคในการอ่าน แต่ในทางกลับกันถ้า independent clause ขึ้นก่อน ไม่จำเป็นต้องมีคอมม่าเพราะไม่ต้องหยุดวรรคเวลาอ่าน My stomach was upset after lunch.
12. คอมม่าใช้แยก adjective ที่อยู่ด้วยกันหลายๆ ตัวเพื่อขยายคำนาม เช่น It was made of a strange, green, mettalic, material.
13. คอมม่าใช้วางไว้หน้า conjunctions หรือคำเชื่อมที่เชื่อม independent clauses สองประโยคเข้าด้วยกันอย่าง like, although, but, also, yet, and เช่น The show was over, but the crowd refused to leave.
14. คอมม่าใช้แทนคำที่ต้องการละ เช่น Susan left at 7:00; John, at 7:30.
15. คอมม่าใช้วางหน้า too เมื่อใช้ในความหมายเดียวกับ also เช่น She brought a pair of shoes and a pair of clean socks, too. หรือถ้า too อยู่กลางประโยคต้องใส่คอมม่าทั้งหน้าและหลังเพื่อเน้น เช่น I wasn’t sure about their idea, and he, too, didn’t want to accept it.
16. คอมม่าใช้เน้น adverb ก็ได้ เช่น I wrote it down, quickly, which is why it is impossible for you to read.
17. คอมม่าใช้ใส่หลังคำขึ้นต้นและลงท้ายจดหมาย เช่น Dear Mr. John, และ Sincerely yours,
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น